ข้อมูลของถุงมือไนไตร

    

ถุงมือไนไตร

       ถุงมือไนไตรทุกวันนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยใช้กันในหลายๆวัตถุประสงค์ แต่วัตถุประสงค์หลักคือปกป้องมือของผู้สวมใส่ ทั้งจากสารพิษ สารเคมีและสารละลายต่างๆ ถุงมือยางไนไตรในปัจจุบันมีจำหน่ายหลายแบบและหลายขนาด หลาย texture โดยมีทั้งผิวหยาบและผิวเรียบ ซึ่งให้ความแตกต่างกันทั้งคุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมีนั่นก็เพื่อวัตถุประสงค์การใช้ที่หลากหลายนั้นเอง ดังนั้นเมื่อจะเลือกซื้อถุงมือยางไนไตรควรพิจารณาถึงประเด็นเรื่องการป้องกัน หรือปกป้องมือเป็นหลักตลอดจนควรพิจารณาถึงคุณภาพ ทั้งวัสดุที่ใช้ผลิต ความหนา การแพ้ถุงมือ เป็นต้น

 

ถุงมือไนไตร ถุงมือยางไนไตร : ทำจากอะไร

       ถุงมือยางไนไตรที่ใช้กันทั่วไป ทำจากยางสังเคราะห์ โดยสังเคราะห์จากปิโตรเลี่ยมและสารเคมีที่สำคัญๆเช่น acrylonitrile, butadiene และ carboxylic acid.

       ถุงมือไนไตรมีส่วนประกอบสำคัญคือ กรดคาร์บอกซิลิก (carboxylic acid), อะไครโรไนไตร (acrylonitrile) และ บิวทาไดอีน (butadiene) สารประกอบแต่ละตัวจะทำให้คุณสมบัติของถุงมือไนไตรมีแต่ต่างกันออกไป โดยผมขออธิบายเป็นสังเขปดังนี้ครับ

1) Acrylonitrile – ช่วยทำให้ถุงมือไนไตรมีความต้านทานของสารละลายเพิ่มขั้นโดยถุงมือไนไตรจะทนสารละลายจำพวก กรด, เบส, แอลกอฮอล์, สารไฮโดรคาร์บอน, ไขมัน ตลอดจนนำมันประเภทต่างๆ ถ้าถุงมือไนไตรของโรงานไนมีเพิ่มความเข้มข้นของ acrylonitrile สูงก็จะทนสารละลายได้มาก และยิ่งถ้าเอาไปเปรียบเทียบถุงมือแพทย์ ซึ่งไม่มีสาร acrylonitrile เลย ทำให้ถุงมือแพทย์ทนต่อสารละลายได้น้อยมาก

2) Butadiene – สารบิวทาไดอีนที่ผสมในถุงมือยางไนไตร จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความนุ่นนวลให้กับถุงมือไนไตร

3) Carboxylic acid – กรดคาร์บอกซิลิกช่วยเพิ่มการทนต่อแรงดึงของถุงมือไนไตร ด้วยเหตุนี้ ถุงมือไนไตรที่เหนียว ขาดยาก ก็เพราะเจ้าตัวกรดคาร์บอกซิลิกตัวนี้แหละครับ

       ดังนั้นถุงมือไนไตรที่ผลิตจากโรงงานต่างๆ จะมีสูตรและส่วนผสมของสารสามชนิดนี้ในอัตราส่วนแตกต่างกันทำให้ถุงมือไนยางไตรที่ผลิตมาจากโรงงานต่างกัน ด้วยสูตรที่แตกต่างกันก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันด้วยครับ

 

ถุงมือไนไตร ถุงมือยางไนไตร : ดีอย่างไร

       คุณสมบัติพื้นฐานของถุงมือยางไนไตรจะคล้ายกับถุงมือแพทย์ทั่วไปแต่ถุงมือไนไตรมีความลื่นมากกว่าถุงมือแพทย์ จึงสวมใส่ง่ายกว่าอย่างไรก็ตามก็มีถุงมือไนไตรบางชนิดมีการใส่แป้งลงไป เพื่อให้ลื่นและสวมใส่ง่ายยิ่งขึ้น

       เนื่องจากคุณสมบัติที่เหนียวและแข็งแรง ถุงมือไนไตรจึงมีข้อจำกัดคือความยืดหยุดอาจจะไม่เท่าถุงมือแพทย์โดยมากถุงมือยางไนไตรจะใช้กับงานที่ไม่ต้องการความละเอียดมากเท่าถุงมือแพทย์ (จะใช้ในงานที่ค่อนข้างหยาบกว่า)

 

ถุงมือไนไตร ถุงมือยางไนไตร : มีกี่เกรด อะไรบ้าง ต่างกันอย่างไร

       ในกระบวนการผลิตถุงมือ ไม่ว่าจะเป็นถุงมือยาง ถุงมือไวนิล หรือถุงมือไนไตรก็ตามต่างก็มีมาตฐานในการเลือกใช้ถุงมือ ออกเป็น 3 ระดับ (หรือ 3 เกรด) ถุงมือที่จัดเป็น

     เมดดิคัลเกรด (medical grade) จะมีมาตฐานการป้องกันสูงสุด (highest protection rating) ในต่างประเทศจะต้องผ่านมาตรฐานของ Food and Drug Administration (FDA) เลยทีเดียว

     เกรดต่อมา เป็น high-risk category จะใช้ในการบริการทางการแพทย์ทั่วไป ถุงมือเกรดนี้จะผ่านการตรวจสอบค่อนข้างสูง เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถใช้งานได้เหมาะสม

     เกรดสุดท้ายเป็น เกรดใช้งานทั่วไป (utility grade) วัตถุประสงค์ของเกรดนี้มีไว้ใช้ในงานอื่นๆที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ จึงไม่ได้ทดสอบมาตราฐาน

FDA ถุงมือชนิดนี้เหมาะที่จะใช้งานทั่วไป เช่นงานช่าง งานวิศวกรรมโดยเฉพาะงานอุตสหกรรมหนักเช่นงานอุตสาหกรรมรถยนต์ หรืองานที่ต้องสัมผัสสารละลายไม่ว่าจะเป็นกรด เบส น้ำมันต่างๆ

 

     ปัจจุบันถุงมือไนไตรมีหลายแบบขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานที่นิยมกันมากจะเป็นแบบบางและมีผิวหยาบที่ปลายนิ้ว กับ แบบหน้าที่มีผิวหยาบทั้งฝ่ามือเหตุที่มีผิวหยาบก็เพื่อให้ยึดจับได้ถนัดมือ ไม่ลื่นหลุด (คล้ายๆ ลายนิ้วมือของเรา)ถุงมือยางไนไตรชนิดบางนิยมใส่กันเพื่อให้เกิดความรู้สึกเหมือนสวมถุงมือแพทย์ชนิดจากยางธรรมชาติส่วนถุงมือยางไนไตรแบบหนานิยมใส่เพื่อการป้องกันที่ดีกว่า (รับกับงานหนักๆได้ดีกว่า)แต่ถุงมือยางไนไตรทั้งสองความหนาก็จะมีความยืดหยุ่น สวมใส่สบายคล้ายๆกัน

 

     แม้ว่าถุงมือไนไตรจะทนสารเคมีได้หลากหลายแต่ก็มิได้หมายความว่าจะทนสารเคมีได้ทุกชนิดในโลกและทนสารเคมีได้ทุกความเข้นข้นนะครับ การเลือกซื้อถุงมือยางไนไตร ถ้าจะให้ดีควรขอตัวอย่างมาทดสอบ เพราะผู้ขายทุกเจ้าสามารถให้ตัวอย่างมาทดสอบฟรีอยู่แล้วอย่างเช่น V.P. Products Supply Co.,Ltd ก็มีการแจกตัวอย่างฟรีให้ลูกค้าเอาไปทดลอง หากท่านสนใจสามารถติดต่อขอตัวอย่างได้ที่ทางร้านครับ

Visitors: 1,251,023