ที่มาและพัฒนาการของแฟลชไดร์ฟจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

โดย: admin [IP: 118.174.183.xxx]
เมื่อ: 2017-11-29 17:42:52
หากจะพูถึงหนึ่งในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคหรือคอมพิวเตอร์ที่สามารถจัดเก็บข้อมูล ถ่ายโอนข้อมูล หรือบันทึกข้อมูลสำคัญต่างๆ คุณจะต้องนึกถึงแฟลชไดร์ฟ เป็นอันดับต้นๆอย่างแน่นอน แต่เคยสงสัยหรือไม่ว่าก่อนที่แฟลชไดร์ฟ จะเป็นรูปร่างหน้าตาหรือสเปคต่างๆให้เราใช้งานอย่างทุกวันนี้ มีที่แบะพัฒนาการอย่างไรจากอดีตจนถึงปัจจุบัน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับที่มาที่ไปของแฟลชไดร์ฟให้มากขึ้น

แฟลชไดร์ฟ มีต้นกำเนิดตั้งแต่ในช่วงปี 1980 โดยการนำเอาหน่วยความจำแฟลช (Flash memory) แบบ NAND โดยในยุคแรกนี้มีรูปร่างคล้ายกับแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Toshiba ที่เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับต้นๆ โดยการเชื่อมต่อนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้สาย Sataหรือเชื่อมภายในคอมพิวเตอร์โดยตรง หลังจากนั้นในปี 1990ทางบริษัทได้นำเอาหน่วยความจำแฟลช (Flash memory) แบบ NAND มาเพิ่มระบบเชื่อมต่อยอดนิยมในช่วงนั้นที่เรียกว่า USB port จนได้กำเนิดมาเป็นแฟลชไดร์ฟ แบบUSB ที่เราใช้อย่างปัจจุบันนั้นเอง ในช่วงแรกนั้น แฟลชไดร์ฟ

มีความจุแค่เพียง 8 เมกะไบต์เท่าโดยสามารถเซฟข้อมูลขนาดเล็กจากคอมพิวเตอร์เท่านั้น ไม่ตองพูดถึงไฟล์เพลง ไฟล์งาน หรือไฟล์รูปภาพต่างแบบในปัจจุบัน จนเมื่อบริษัท IBM ได้ทำการศึกษาและพัฒนาแฟลชไดร์ฟให้มีขนาดความจุที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 16 เมกะไบต์, 64 เมกะไบต์ และ 128 เมกะไบต์ พร้อมทั้งเปิดตลาดแฟลชไดร์ฟภายใตความจุที่มากขึ้น จนทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในหมู่ผู้ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ นักศึกษา หรือผู้พัฒนารายอื่นๆเองก็ตาม จึงเป็นต้นแบบที่ทำให้แฟลชไดร์ฟถูกพัฒนาให้มีความจุมากยิ่งขึ้นอย่างในปัจจุบัน กลายเป็นว่าแฟลชไดร์ฟมีความจุในหน่วยเมกกาไบท์ (MB), กิกกาไบท์ (GB) จนสูงถึง 1 เทราไบท์ (TB) ทำให้สามารถเก็บข้อมูลต่างๆได้มากยิ่งขึ้นนอกจากนั้นระบบความจุแฟลชไดร์ฟที่ถูกพัฒนาขึ้น ยังรวมไปถึงระบบการเชื่อมต่อจากเริ่มที่เป็นเพียง USB 1.0 ได้ถูกเปลี่ยนมาเป็น USB 2.0 และ USB 3.0 ตามลำดับ การออกแบบของแฟลชไดร์ฟที่เปลี่ยนจากชิ้น 4 เหลี่ยมธรรมดาทั่วไปให้กลายเป็น gadget สุดน่ารักที่พร้อมจะให้คุณพกพาไปได้ทุกที่และใช้งานได้อย่างมั่นใจ แฟลชไดร์ฟในบางรุ่นยังเพิ่มระบบความปลอดภัยที่สามารถล๊อคการเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้

ปัจจุบันแฟลชไดร์ฟได้กลายเป็นส่งที่จำเป็นกับผู้ใช้งานและยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ พร้อมทั้งยังพัฒนาให้สามารุใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย บันทึกข้อมูลได้เยอะขึ้น โอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น มีความสวยงามน่าใช้ และมีความทนทานสูงยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้คือที่มาและพัฒนาการของแฟลชไดร์ฟจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 1,250,884